สอบถามข้อมูล
คำถามที่พบบ่อย
บริษัท อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจทางด้านวิศวกรรมมานานกว่า 40 ปี ครอบคลุมงานด้านการขายและ การติดตั้งครบวงจรสำหรับเครื่องจักรในระบบการผลิตกระแสไฟฟ้า รวมถึงจัดหาอุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพ อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน อุปกรณ์ในระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ อีกทั้งบริหารระบบพัสดุคงคลังสำหรับโรงไฟฟ้าในประเทศไทยและประเทศลาว รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย เช่น โรงปูนซีเมนต์ โรงปิโตรเคมิคอล โรงกลั่นน้ำมัน เป็นต้น
ให้บริการด้านวิศวกรรมเพื่อจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งกลุ่มบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบการผลิตของโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม จากผู้ผลิตชั้นนำระดับสากล โดยครอบคลุมถึงงานบริการติดตั้งและซ่อมบำรุง ด้วยการออกแบบ ให้คำปรึกษา และนำเสนอโซลูชั่น เพื่อตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการบริหารสินค้าคงคลังในส่วนที่กลุ่มบริษัทจัดหาและจำหน่าย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่บริษัทฯ ให้บริการจัดหาและจำหน่าย จะเน้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนกระบวนการผลิตหรือการทำงานให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงสามารถลดผลกระทบหรือแก้ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมได้ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบเผาไหม้ (Combustion System) เช่น อุปกรณ์กำจัดเขม่าควัน (Soot Blower) อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน (Heating Element) เป็นต้น
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบจัดการของเสียและไอเสีย (Flue Gas Management System) เช่น ระบบระบายอากาศและพัดลมอุตสาหกรรม (Industrial Fan) อุปกรณ์ดักจับฝุ่นละอองชนิดไฟฟ้าสถิตย์ (Electrostatic Precipitator : ESP) อุปกรณ์ ดักจับละอองน้ำ (Mist Eliminator) เป็นต้น
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchanger System) เช่น แผงระบายความร้อน (Fill Pack) เป็นต้น
4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบอื่น ๆ ได้แก่ ระบบน้ำ (Water System) เช่น เครื่องกรองอนุภาคระดับไมครอนในน้ำดิบ (Microfiltration) ปั๊มน้ำ (Pump) วาล์วและหัวขับลมที่ใช้ในการควบคุมวาล์ว (Valve and Pneumatic Actuator) ระบบสำรองไฟฟ้าและพลังงาน (Uninterruptible Power Supply System) เช่น เครื่องสำรองไฟ (UPS) เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) เป็นต้น
สำหรับการให้บริการของกลุ่มบริษัท ด้วยกลุ่มลูกค้าของกลุ่มบริษัทเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีการทำงานของอุปกรณ์ เครื่องจักรตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมย่อมมีการเสื่อมสภาพลงตามการใช้งาน กลุ่มบริษัทจะเข้าศึกษาระบบและอุปกรณ์ของลูกค้า เพื่อพิจารณาว่าระบบของลูกค้าเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ชนิดใด ซึ่งสามารถแบ่งการให้บริการได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
1) การให้บริการเชิงบำรุงรักษา เป็นการนำเสนออุปกรณ์ชนิดเดิมที่ลูกค้าใช้อยู่แล้ว โดยหากอุปกรณ์ที่ลูกค้าใช้อยู่เป็นตราผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มบริษัทเป็นตัวแทน กลุ่มบริษัทก็จะจัดหาอุปกรณ์ชนิดเดิมและให้บริการติดตั้งตามรอบอายุการใช้งานเพื่อบำรุงรักษาและป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต
2) การให้บริการเชิงพัฒนา เป็นการนำเสนออุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์เดิม หรือนำเสนออุปกรณ์เสริมเพื่อติดตั้งเพิ่มเติมควบคู่กับอุปกรณ์เดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตของลูกค้า รวมถึงการให้คำปรึกษา และร่วมกันพัฒนา ออกแบบ โดยเฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในกระบวนการผลิต
กลุ่มลูกค้ารายหลักของกลุ่มบริษัทเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทอุตสาหกรรมไฟฟ้า ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะต้องมีระบบการจัดการของเสียและไอเสีย (Flue Gas Management System) โดยในระบบดังกล่าวจะมีอุปกรณ์ที่มากและซับซ้อนทำให้กลุ่มลูกค้าไม่สามารถจัดการได้เอง โดยกลุ่มบริษัทมีความสามารถให้บริการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันกลุ่มบริษัทได้เริ่มขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ มากขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มบริษัทมีความชำนาญ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มบริษัทให้บริการจัดหาให้แก่ลูกค้าประเภทอุตสาหกรรมไฟฟ้านั้น สามารถใช้ได้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น โรงกลั่นน้ำมันหรือโรงงานปิโตรเคมี ที่มีระบบการเผาไหม้ (Combustion System) โรงงานปูนซีเมนต์ ที่มีระบบจัดการของเสียและไอเสีย (Flue Gas Management System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และ/หรือ ลดมลภาวะทางอากาศจากกระบวนการผลิตได้ และได้เริ่มขยายฐานลูกค้าด้วยการสรรหาผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบสำรองไฟฟ้าและพลังงาน (Uninterruptible Power Supply System) โดยเน้นกลุ่มโรงแรม อาคารขนาดใหญ่ อาคารโรงพยาบาล หรือศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้ระบบสำรองไฟฟ้าและพลังงาน
กลุ่มบริษัทให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งผ่านการผลิตจากโรงงานที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำในกระบวนการผลิตรวมถึงมีการควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ได้รับการยอมรับในระดับสากล จากหลายแบรนด์จากทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์
อีกทั้งกลุ่มบริษัท โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารและพนักงานฝ่ายขายที่มีความรู้ด้านวิศวกร เล็งเห็นปัญหาจากการใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าใช้อยู่เดิม จึงประสานงานไปยังผู้ผลิตเพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับผู้ผลิต เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ตั้งแต่การนำ Drawing ผลิตภัณฑ์เดิมที่มีปัญหาในการใช้งานมาค้นหาจุดบกพร่องและปรับปรุงข้อบกพร่อง การปรับปรุงวัสดุหรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ การทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ทำการพัฒนา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมและรองรับการใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทสามารถนำความรู้ที่ได้จากการร่วมพัฒนามาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ของลูกค้ารายอื่นๆ ได้
โดยที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ที่บริษัทดำเนินการจัดหาและร่วมพัฒนาสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีประวัติการเคลมสินค้า รวมถึงลูกค้ามีคำสั่งซื้อซ้ำในส่วนงานที่ถึงรอบการเปลี่ยน/ซ่อมบำรุง ดังนั้น บริษัทจึงเล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการพัฒนา เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทไม่มีรายจ่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เนื่องจากการดำเนินการตามที่กล่าวข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของงานบริการเพื่อจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาการใช้งานของผลิตภัณฑ์เดิมที่ลูกค้าใช้อยู่
กลุ่มบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรเพื่อให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง กลุ่มบริษัทได้พัฒนาระบบการบริหารควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละประเภท และเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรเพื่อเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการดำเนินการตามเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals: SDGs) และตามกรอบแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน (Environment, Social and Governance: ESG)
บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ โดยคำนึงถึงฐานะทางการเงิน กระแสเงินสด สภาพคล่อง แผนการลงทุน และปัจจัยอื่นๆ ตามความเห็นสมควรของคณะกรรมการบริษัท และการจ่ายปันผลนั้นจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ การจ่ายปันผลอาจน้อยกว่าอัตราข้างต้น โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทฯ กระแสเงินสด เงินทุนหมุนเวียน แผนการลงทุนและการขยายธุรกิจ ภาระหนี้สิน เงื่อนไข และข้อจำกัดตามที่กำหนดในสัญญากู้ยืมเงิน และความเหมาะสมอื่นๆ โดยคณะกรรมการบริษัท จะพิจารณาอย่างระมัดระวัง
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 171 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700
โทรศัพท์: 02-433-2777 กด 1